ปวดศีรษะเรื้อรัง แขนขาอ่อนแรง สัญญาณอันตรายจากโรคไมเกรน
อาการปวดศีรษะไมเกรน (Migraine Headache) เป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อย ลักษณะอาการปวดศีรษะที่จำเพาะกับปวดศีรษะไมเกรน คือ จะมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว อาจย้ายข้างได้ แต่มักเป็นทีละข้าง ลักษณะการปวดเป็นแบบตุ้บๆ ความรุนแรงของอาการปวดจะรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก ถ้าผู้ป่วยที่พบว่ามีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยนอกจากปวดไมเกรน ไม่ว่าจะเป็น แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก พูดไม่ออก มักจะพบว่าอาการของไมเกรนนั้น ไปกระทบกับระบบประสาทร่วมด้วยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก อาจจะทำให้ผู้ป่วยจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเส้นเลือดสมองตีบได้ ดังนั้นหากพบว่ามีอาการไมเกรนร่วมกันแขนขาอ่อนแรง ต้องเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
สารบัญบทความ
- ไมเกรนคืออะไร
- ภาวะไมเกรนที่ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง
- ปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง ส่งผลให้แขนขาอ่อนแรงได้อย่างไร
- ลักษณะอาการแบบไหนเรียกภาวะแขนขาอ่อนแรงจากไมเกรน
- ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน ที่ทำให้เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรง
- วิธีการวินิจฉัยแขนขาอ่อนแรงของไมเกรน
- ภาวะแขนขาอ่อนแรงที่เกิดจากภาวะอื่น
- อันตรายจากไมเกรนทีทำให้ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ข้อสรุป
ไมเกรนคืออะไร
ไมเกรน นั้นถือว่าเป็น โรคทางประสาทวิทยาชนิดหนึ่ง จะพบว่ามีอาการปวดศีรษะที่รบกวนชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก อาการที่พบคือการปวด หัว ไมเกรน บ่อยแบบตุบๆ เป็นจังหวะ บางครั้งเกิดข้างเดียวของศีรษะ บางครั้งก็เป็นทั้งสองข้างได้ ช่วงแรกมักมีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย และจะค่อยๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น สำหรับผู้ป่วยไมเกรน บางคน ก็จะมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แขนขาอ่อนแรง และไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นมากขึ้น
ภาวะไมเกรนที่ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง
ไมเกรนที่มีอาการเตือน (Migraine with aura) อาการเตือนนั้นจะมีลักษณะที่พบบ่อยหลายอย่าง เช่น การมองเห็นผิดปกติ โดยจะเห็นแสงเห็นภาพมืดไปเป็นบางส่วน ภาพไม่ชัด นอกจากนั้นยังมีอาการเตือนอื่นๆ ที่ถ้าพบว่าเป็นลักษณะร่วมของการปวดไมเกรน ไม่ว่าจะเป็นอาการชาที่มือ-แขน หรือชารอบปาก, ไม่สามารถพูดได้ชั่วคราว มีอาการความจำเสื่อมนึกชื่อไม่ออก มีอาการอ่อนแรงของแขน-ขาซีกหนึ่งของร่างกาย เป็นต้น
ซึ่งการเกิดอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมกับอาการเตือนไมเกรนอาจเป็นเพราะการหดตัวของหลอดเลือดสมองเกิดเส้นเลือดสมองตีบที่ช่วยในการขับเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของสมอง เมื่อหลอดเลือดหดตัวนั้นเกิดขึ้น อาจจะทำให้เกิดการลดการไหลเวียนของเลือดและออกฤทธิ์ต่อการขับเลือดของสมองลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงได้ ถือว่าเป็นอาการร่วมที่รุนแรง ควรจะเข้าพบแพทย์และปรึกษาวิธีรักษาทันที
ปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง ส่งผลให้แขนขาอ่อนแรงได้อย่างไร
อาการปวดศีรษะเรื้อรังที่เนื่องมาจากไมเกรนนั้นเป็นอาการปวดศีรษะที่รุนแรงและเกิดเป็นช่วงๆ ส่วนมากจะมีอาการที่ซึมเศร้าและเหนื่อยล้า เมื่อมีอาการไมเกรนเกิดขึ้น บางครั้งอาจมีผลต่อระบบประสาทที่สัมผัสกับแขนขาได้ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงได้
เมื่อปวดศีรษะจากไมเกรนเกิดขึ้น อาจเกิดการหดตัวของหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดภาวะทางประสาท ที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับร่างกาย ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงได้
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อแขนขาได้คือ การใช้ยาแก้ปวดที่ไม่เหมาะสมหรือใช้เกินจำนวนที่แนะนำ ส่วนใหญ่เป็นยารักษาอาการไมเกรนที่มีส่วนประกอบที่ทำให้หดตัวของหลอดเลือด ทำให้เลือดไม่ไหลผ่านได้เต็มปริมาณ ซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกสารอาหารและออกฤทธิ์การทำงานของกล้ามเนื้อแขนขาได้
ลักษณะอาการแบบไหนเรียกภาวะแขนขาอ่อนแรงจากไมเกรน
ภาวะแขนขาอ่อนแรงที่เกิดจากไมเกรนอาจมีอาการต่างๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น
- อาการล้าหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา อาจเกิดขึ้นที่ข้างเดียวหรือทั้งสองข้างของร่างกาย
- อาการชาของขาหรือแขน เมื่อมีอาการนี้เกิดขึ้น ผู้ป่วยอาจรู้สึกตัวว่าขาหรือแขนมีการตัดขาดหรือแขนตึงตัว
- อาการเกิดความคลาดเคลื่อนในการเคลื่อนไหวของแขนขา ซึ่งอาจทำให้เกิดการล้มหรือเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้
- อาการชาของหน้า หรือปากอาจเกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดการพูดไม่ได้ กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกิดอาการเกร็งตัว
- อาการปวดศีรษะหรืออาการเมื่อยล้าเป็นพิเศษขึ้นมากๆ เมื่อมีอาการไมเกรน
ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน ที่ทำให้เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรง
- ปัจจัยที่อาจส่งผลกระตุ้นให้เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรงพร้อมกับอาการปวดศีรษะรุนแรงของไมเกรนนั้น ได้แก่
- เลือดออกในสมอง (Cerebral Hemorrhage) – หากเป็นไมเกรนที่มีอาการปวดศีรษะรุนแรงมากพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนศีรษะ อาจเกิดจากการเลือดออกในสมอง ทำให้เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรงได้
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) – มีบางกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรค Myasthenia Gravis ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่วมกับอาการไมเกรน ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการแขนขาอ่อนแรงสามารถเกิดขึ้นได้
- ภาวะสูญเสียการรับรู้ร่างกาย (Somatosensory Deficit) – บางครั้งอาการปวดศีรษะรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อการรับรู้ร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะแขนขาอ่อนแรงได้
- การแพ้ยา – บางครั้งการใช้ยาแก้ปวดศีรษะที่กินเพื่อให้ไมเกรนรักษาหายอาจทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงได้
วิธีการวินิจฉัยแขนขาอ่อนแรงของไมเกรน
อาการแขนขาอ่อนแรงนั้นอาจจะเป็นอาการร่วมของการปวดไมเกรนและสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นผลมาจาก หลอดเลือดสมองขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้เพียงพอหรืออาจมีสาเหตุจากโรคอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท ดังนั้นการวินิจฉัยและรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการแขนขาอ่อนแรง
ในกรณีที่มีอาการแขนขาอ่อนแรงและเป็นมากจนกระทั่งเกิดความไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจวินิจฉัยอาการโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น CT scan หรือ MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยปัญหาในสมอง และอาจจะต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่มเติมเช่นการตรวจการไหลเวียนเลือดในสมอง เพื่อหาสาเหตุของอาการแขนขาอ่อนแรงด้วย
ภาวะแขนขาอ่อนแรงที่เกิดจากภาวะอื่น
อาการแขนขาอ่อนแรงอาจเกิดขึ้นได้จากภาวะอื่นๆ นอกเหนือจากปวดไมเกรน เช่น
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) – เกิดขึ้นจากการสูญเสียเซลล์ประสาทในสมอง ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงและจับไม่ตัว รวมถึงอาการสั่นและการเคลื่อนไหวช้าลง
- อัมพาต (Amyotrophic lateral sclerosis (ALS)) – มีลักษณะการทำลายเนื้อเยื่อประสาทที่เป็นผู้ควบคุมกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงและการพูดที่ลำบาก
- อัมพฤกษ์ (Myasthenia gravis) – มีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อกล้ามเนื้อที่ลดลง จึงทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงและอาการอื่นๆ เช่น หน้าซีด ลำคออ่อนแรง หายใจลำบาก เป็นต้น
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myopathy) – เป็นกลุ่มของโรคที่มีผลต่อกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรงและอาการอื่นๆ เช่น อ่อนแรงทั่วไปของกล้ามเนื้อ หรือติดเชื้อที่ก่อให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบ
การวินิจฉัยภาวะแขนขาอ่อนแรงจะต้องใช้วิธีการตรวจร่างกายและการตรวจเครื่องมือเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและปริมาณของการทำลายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์อาการและประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วยด้วย
อันตรายจากไมเกรนที่ทำให้ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การเจ็บปวดจากไมเกรนอาจทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติในการใช้กล้ามเนื้อหรือภาวะแขนขาอ่อนแรง (drop foot) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการทำลายประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแขนขา
การมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหรือการบาดเจ็บจากการหกล้มได้มากขึ้น นอกจากนี้ ภาวะอ่อนแรงที่รุนแรงอาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคขาดเลือดในสมอง (stroke) หรือภาวะเกี่ยวกับประสาทส่วนกลางอื่น
ข้อสรุป
อาการร่วมของการปวดไมเกรนที่บ่งชี้ว่าเป็นอาการปวดผิกปกติ ทั้งคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัวเป็นระยะเวลานาน รับประทานยาก็ไม่หาย ต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเรื่อย ๆ ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยและหาวิธีรักษาให้ตรงจุด ซึ่งการรักษาอาการปวดไมเกรนด้วยการใช้โบท็อกไมเกรนนั้น จะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทาง มีแพทย์ประจำในการให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลติดต่อกลับหรือจองคิวเพื่อเข้าแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือรักษาอาการปวดไมเกรนได้ที่ สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์ 090–970-0447 BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ทันสมัยและปลอดภัย
เอกสารอ้างอิง