วิตามินที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน ตัวเลือกธรรมชาติ สำหรับคนปวดหัวเรื้อรัง

วิตามินลดไมเกรนไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่ใครหลายคนต้องเผชิญ และบ่อยครั้งก็ไม่ได้หายไปง่ายๆ การใช้ยาเป็นทางออกที่หลายคนเลือก แต่สำหรับคนที่อยากหาวิธีบรรเทาอาการไมเกรนและการป้องกันไมเกรนแบบธรรมชาติ การใช้ “วิตามินบรรเทาไมเกรน” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารอาหารบางอย่างมีบทบาทในการลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรน ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่าวิตามินช่วยลดอาการไมเกรนได้อย่างไร และมีวิตามินอะไรบ้างที่เป็นตัวช่วยให้คุณรับมือกับไมเกรนได้ดีขึ้น

สารบัญบทความ

วิตามินที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนคืออะไร?

เมื่อพูดถึง “วิตามิน” หลายคนอาจนึกถึงสารอาหารเสริมทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า วิตามินบางชนิดสามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้จริง แทนที่จะพึ่งยาแก้ปวดเพียงอย่างเดียว การเสริมวิตามินอาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เพราะไมเกรนเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด พฤติกรรมการกิน การพักผ่อน และความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ซึ่งวิตามินบางตัวมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลเหล่านี้ได้ ทำให้ไมเกรนมาเยือนน้อยลง หรือถ้ามาก็ไม่รุนแรงเท่าเดิม แล้ววิตามินรักษาไมเกรนทำงานอย่างไร มีงานวิจัยสนับสนุนจริงไหม มาดูกัน

วิตามินช่วยบรรเทาไมเกรนได้อย่างไร

วิธีบรรเทาไมเกรนด้วยวิตามินมักทำงานใน 3 กลไกหลัก ได้แก่  

  • ช่วยลดการอักเสบในสมอง – ไมเกรนเกี่ยวข้องกับการอักเสบในระบบประสาท วิตามินบางชนิดมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยให้สมองสงบลง
  • ปรับสมดุลพลังงานของเซลล์ประสาท – เซลล์สมองต้องใช้พลังงานสูง วิตามินไมเกรนบางตัวช่วยให้การเผาผลาญพลังงานมีประสิทธิภาพขึ้น ลดการกระตุ้นที่ผิดปกติ
  • ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท – วิตามินบางชนิดช่วยควบคุมสารสื่อประสาท ลดการเกิดสัญญาณผิดปกติที่กระตุ้นไมเกรน

งานวิจัยสนับสนุนการใช้วิตามินกับไมเกรน

วิธีบรรเทาไมเกรนด้วยวิตามินนั้นเป็นวิธีที่มีงานวิจัยรองรับ มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าวิตามินสามารถช่วยลดความถี่ ความรุนแรง และระยะเวลาของอาการไมเกรนได้ เช่น

  • วิตามิน B2 : งานวิจัยพบว่าผู้ที่ทานวิตามิน B2 วันละ 400 มก. เป็นเวลา 3 เดือน มีอาการไมเกรนน้อยลงถึง 50%
  • แมกนีเซียม : งานวิจัยชี้ว่าแมกนีเซียมกับไมเกรนมีความเกี่ยวข้องกันสูงมาก โดยผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมต่ำมีแนวโน้มที่จะปวดไมเกรนบ่อยขึ้น และการเสริมแมกนีเซียมช่วยลดอาการได้
  • โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10) : การเสริมโคเอนไซม์คิวเท็นอย่างเหมาะสม ช่วยทำให้ปวดไมเกรนน้อยลง และไม่ปวดบ่อย อีกทั้งยังส่งผลดีต่อระบบพลังงานของเซลล์สมองอีกด้วย
  • วิตามิน D : การขาดวิตามิน D อาจเกี่ยวข้องกับอาการไมเกรนเรื้อรัง และการเสริมวิตามิน D เข้ามาช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้

วิตามินที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยไมเกรน

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องรับมือกับไมเกรนเป็นประจำ คงเข้าใจดีว่ามันรบกวนชีวิตได้แค่ไหน แต่แทนที่จะพึ่งยาแก้ปวดทุกครั้ง รู้หรือไม่ว่ามีวิตามินธรรมชาติสำหรับไมเกรนที่ช่วยให้ไมเกรนมาเยี่ยมน้อยลง หรือถ้ามาก็เบากว่าที่เคย ซึ่งวิตามินเหล่านี้ได้รับการศึกษามาแล้วว่ามีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาท ลดการอักเสบ และช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง เรามาดูกันว่าวิตามินบรรเทาไมเกรนที่แนะนำมีอะไรบ้าง และควรได้รับจากแหล่งไหน

แมกนีเซียม (Magnesium)

แมกนีเซียม ช่วยเรื่องอะไร?

หากถามว่าไมเกรนกินวิตามินอะไรดีที่สุด คำตอบแรกเลยก็คือ “แมกนีเซียม” แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท แมกนีเซียมกับไมเกรนมีบทบาทช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวอย่างเหมาะสม ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และป้องกันภาวะสมองตื่นตัวเกินไป ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นไมเกรน มีการศึกษาพบว่าผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมต่ำมีแนวโน้มเป็นไมเกรนบ่อยขึ้น และการเสริมแมกนีเซียมสามารถช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้  

ปริมาณที่ควรได้รับ

  • ผู้หญิง : ประมาณ 310-320 มก./วัน
  • ผู้ชาย : ประมาณ 400-420 มก./วัน

หากใช้แมกนีเซียมเสริมเพื่อบรรเทาไมเกรน แนะนำที่ 400-600 มก./วัน

แหล่งอาหาร

  • อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
  • ผักโขม คะน้า
  • เมล็ดฟักทอง เมล็ดเจีย
  • กล้วย อะโวคาโด
  • ดาร์กช็อกโกแลต

วิตามิน B2 (Riboflavin)

วิตามิน B2 ช่วยเรื่องอะไร?

วิตามิน B2 มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานของเซลล์สมอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของไมเกรนได้ โดยงานวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับวิตามิน B2 อย่างเพียงพอสามารถลดจำนวนครั้งของไมเกรนลงได้

ปริมาณที่ควรได้รับ

ปริมาณที่แนะนำคือ 400 มก./วัน เพื่อช่วยลดไมเกรน

แหล่งอาหาร

  • ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม
  • เนื้อวัว ตับ
  • ปลา เช่น แซลมอน ปลาซาร์ดีน
  • ผักใบเขียว เช่น ผักโขม บรอกโคลี
  • อัลมอนด์

วิตามินบี2

โคเอนไซม์ Q10 (CoQ10)

โคเอนไซม์ Q10 ช่วยเรื่องอะไร?

CoQ10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อการผลิตพลังงานของเซลล์ ช่วยป้องกันเซลล์สมองเสียหาย และลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไมเกรน งานวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทาน CoQ10 เป็นประจำมีอาการไมเกรนน้อยลงและเบาลง

ปริมาณที่ควรได้รับ  

แนะนำที่ 100-300 มก./วัน

แหล่งอาหาร

  • ปลา เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน
  • เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เครื่องใน
  • ถั่ว เช่น วอลนัท ถั่วลิสง
  • น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา
  • บรอกโคลี ผักโขม

โคเอนไซม์ Q10

วิตามิน D

วิตามิน D ช่วยเรื่องอะไร?

วิตามิน D เป็นวิตามินบรรเทาไมเกรนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และส่งผลดีต่อสมอง งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการขาดวิตามิน D อาจเพิ่มความเสี่ยงของไมเกรนมากขึ้น และการเสริมวิตามิน D ช่วยลดอาการปวดได้

ปริมาณที่ควรได้รับ

  • ปริมาณที่แนะนำคือ 600-800 IU/วัน
  • หากขาดรุนแรง อาจต้องเสริมที่ 1,000-2,000 IU/วัน

แหล่งอาหาร

  • ปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล
  • ตับวัว ไข่แดง
  • นมเสริมวิตามิน D
  • เห็ดบางชนิด เช่น เห็ดชิตาเกะ

วิตามิน D

วิธีเลือกวิตามินให้เหมาะสมกับอาการไมเกรนของคุณ

วิตามินอาจเป็นตัวช่วยสำคัญในการบรรเทาอาการไมเกรน แต่การเลือกวิตามินที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การหยิบขวดที่มีคำว่า “ช่วยบรรเทาไมเกรน” แล้วซื้อไปทานทันที เพราะร่างกายของแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน วิธีการเลือกวิตามินรักษาไมเกรนที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ มาดูกันว่าควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนเลือกเสริมวิตามินเพื่อจัดการไมเกรนอย่างมีประสิทธิภาพ

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ก่อนจะเริ่มทานวิตามิน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ โดยเฉพาะถ้าหากคุณมีโรคประจำตัว หรือกำลังใช้ยาประเภทอื่นอยู่ เพราะวิตามินบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับไต อาจต้องระวังการเสริมแมกนีเซียม ดังนั้น อย่าคิดว่าวิตามินคือของดี ไม่มีอันตราย เพราะแม้ว่ามันจะเป็นสารอาหารที่จำเป็น แต่การได้รับมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้เช่นกัน 

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

ไม่ใช่วิตามินทุกแบรนด์จะให้คุณภาพเท่ากัน การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของวิตามินที่คุณได้รับ โดยเคล็ดลับการเลือกวิตามินบรรเทาไมเกรนคุณภาพดี ได้แก่

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น GMP (Good Manufacturing Practice) หรือ USP (United States Pharmacopeia)
  • อ่านฉลากให้ละเอียด ตรวจสอบส่วนผสม ปริมาณ และแหล่งที่มา เพราะบางแบรนด์อาจใส่สารกันเสียหรือสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น
  • เลือกสูตรที่ดูดซึมได้ดี เช่น วิตามิน D3 (ดูดซึมดีกว่า D2) หรือแมกนีเซียมในรูปแบบ Magnesium Glycinate (ลดปัญหาท้องเสีย)
  • เลี่ยงสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น เช่น สีย้อม สารให้ความหวาน หรือสารกันเสียที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง

การเสริมอาหารจากธรรมชาติ

แม้วิตามินธรรมชาติสำหรับไมเกรนจะสะดวกและค่อนข้างปลอดภัย แต่การได้รับวิตามินจากอาหารจริงๆ ย่อมดีกว่าเสมอ อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารจากธรรมชาติไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาไมเกรน แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอื่นๆ ที่เสริมสุขภาพโดยรวม เช่น

  • อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง ผักใบเขียว อุมไปด้วย “แมกนีเซียม”
  • ไข่ เนื้อสัตว์ ตับ และนม อุดมไปด้วย “วิตามิน B2”
  • ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ทูน่า อุดมไปด้วย “โคเอนไซม์ Q10”

ข้อดีของการเสริมวิตามินจากอาหาร

  • ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า
  • ไม่มีความเสี่ยงของการได้รับวิตามินมากเกินไป
  • ได้รับสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสุขภาพโดยรวม

ข้อควรระวังในการใช้วิตามินเพื่อรักษาไมเกรน

แม้ว่าวิตามินจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการบรรเทาไมเกรน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทานได้แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะมีบางจุดที่ต้องระวังเพื่อให้การใช้วิตามินรักษาไมเกรนได้ผลดีและปลอดภัย อย่างแรกเลยก็คือวิตามินบางชนิด เช่น แมกนีเซียม หากทานมากเกินไป อาจทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ ทั้งยังส่งผลต่อไตได้ ส่วนวิตามิน D หากได้รับมากเกินไป อาจทำให้แคลเซียมในเลือดสูงเกิน ส่งผลต่อไตและหัวใจได้เช่นกัน

ปฏิกิริยากับยาเป็นอีกเรื่องที่ต้องระวัง หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ เช่น ยาลดความดัน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านเศร้า วิตามินบางชนิดอาจมีผลต่อการทำงานของยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ นอกจากนี้ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็สำคัญ เพราะไม่ใช่วิตามินทุกแบรนด์จะมีมาตรฐานเหมือนกัน บางยี่ห้ออาจมีสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น หรือปริมาณสารอาหารที่ไม่ตรงตามฉลาก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น GMP, USP หรือ NSF

สุดท้าย อย่าพึ่งพาวิตามินบรรเทาไมเกรนอย่างเดียว แม้วิตามินจะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้ แต่ก็ไม่ได้ทดแทนไลฟ์สไตล์ที่ดีได้แบบเต็มร้อย ดังนั้น ควรปรับพฤติกรรมร่วมด้วย เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ข้อสรุป

ไมเกรนเป็นปัญหากวนใจที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของหลายๆ คน แต่วิตามินบรรเทาไมเกรนก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่เห็นผลดีเช่นกัน ซึ่งมีงานวิจัยสนับสนุนว่าช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้ แต่การเลือกวิตามินที่มีคุณภาพและเสริมด้วยการปรับพฤติกรรมที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน  

อย่างไรก็ตาม หากอาการไมเกรนของคุณรุนแรงเรื้อรัง หรือวิตามินและวิธีธรรมชาติไม่ได้ผล ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเข้ารับการวินิจฉัยและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือทันสมัย BTX Migraine Center เป็นศูนย์เฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อรักษาไมเกรนและอาการปวดหัวเรื้อรังโดยเฉพาะ มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์ต้นเหตุของอาการไมเกรนได้อย่างละเอียด ช่วยให้แพทย์สามารถให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด  

หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลไมเกรนแบบมืออาชีพ สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 เพื่อปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือจองคิวเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทันที เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นได้จากการรักษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย

แอดไลน์