เวียนหัว บ้านหมุน สัญญาณอันตรายของอาการปวดหัว
อาการเวียนหัว บ้านหมุน มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่โดยส่วนมากแล้วจะมาจากความผิดปกติของบริเวณหูชั้นใน ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลของร่างกาย เมื่อเกิดอาการผิดปกติจะส่งผลให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว บ้านหมุน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ไม่สามารถทรงตัวได้ หรือบางรายก็อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย และอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอาการบ้านหมุน อาจเป็นสัญญาณเตือนหรือผลข้างเคียงของการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคไมเกรน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นต้น
สารบัญบทความ
- อาการ บ้านหมุน แบบไหนควรรีบพบแพทย์
- บ้านหมุน สาเหตุมาจากอะไร
- อาการ บ้านหมุน แบบไหนควรพบแพทย์
- วิธีการตรวจวินิจฉัยอาการเวียนศีรษะผิดปกติ
- บ้านหมุน ปฐมพยาบาลอย่างไร
- บ้านหมุน เกี่ยวข้องกับไมโรคไมเกรน
- วิธีป้องกันอาการ บ้านหมุน
- ข้อสรุป
อาการ บ้านหมุน แบบไหนควรรีบพบแพทย์
เมื่อเกิดอาการบ้านหมุน ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวกำลังหมุนอยู่ หรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังหมุนทั้ง ๆ ที่อยู่กับที่ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นประมาณ 1-5 นาทีต่อครั้ง รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก หูอื้อ มีเสียงในหูร่วมด้วย ซึ่งอาการเบื้องต้นมีดังนี้
- มึนหัว เวียนหัว
- หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ไม่สามารถทรงตัวได้ หรือเดินเซจนล้ม
- หูอื้อ มีเสียงดังในหู
อาการดังกล่าว เป็นอาการเบื้องต้นของโรคบ้านหมุน ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ หรือหากเกิดบ้านหมุนบ่อยครั้ง ก็อาจจะทำให้เซจนล้มและเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะฉะนั้นหากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์โดยทันที
บ้านหมุน สาเหตุมาจากอะไร
บ้านหมุน หรืออาการเวียนหัวจนเป็นภาพหมุนผิดปกติ มีสาเหตุมาจากผลข้างเคียงของโรคบางอย่าง เช่น
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นในที่มี Endolymph มากผิดปกติ ส่งผลให้การรับเสียง และควบคุมการทรงตัวทำงานผิดปกติ จึงทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หูอื้อ หรือบ้านหมุนได้
- โรคไมเกรน หากผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน หรือมีอาการโคลงเคลงเหมือนเมารถเมาเรือบ่อยครั้ง อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าเป็นโรคไมเกรนได้
- โรคหินปูนในหูชั้นใน หรือ BPPV จะพบตะกอนแคลเซียมสะสมอยู่ในบริเวณหูชั้นใน เมื่อมีการเคลื่อนไหวศีรษะจะทำให้ตะกอนแคลเซียมไปกระตุ้นอวัยวะการทรงตัว ทำให้มีอาการบ้านหมุน
- ความผิดปกติของระบบอื่น ๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โรคความดันโลหิตสูง ล้วนส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด เกิดอาการบ้านหมุน เนื่องจากหัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ
- ความผิดปกติทางจิตเวช จะเกิดอาการเวียนหัวอย่างมากเมื่ออยู่ในที่แคบ ที่โล่ง หรือที่สูง แต่อาการจะหายไปเมื่อออกจากสถานที่เหล่านั้น
- อุบัติเหตุทางสมอง หรือได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
- บ้านหมุน เกิดจาก ปัจจัยอื่นๆ เช่น เครียดวิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ เมารถ หรือเมาเรือ ทำให้ระบบประสาทรับภาพไม่สัมพันธ์กับสภาพที่เคลื่อนที่เร็ว
อาการ บ้านหมุน แบบไหนควรพบแพทย์
หากผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวหรือบ้านหมุนบ่อยครั้ง ต้องหมั่นสังเกตอาการของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากไม่รีบพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินวินิจฉัยแยกโรคให้ทราบถึงสาเหตุ ก็อาจจะทำให้อาการทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอาการของโรคบ้านหมุนที่ควรรีบพบแพทย์ ได้แก่
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน อย่างรุนแรง จนรบกวนชีวิตประจำวัน ไม่สามารถทำงานหรือทำอย่างอื่นได้
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน มาเป็นระยะเวลายาวนานมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือรับประทานยาแล้วก็อาการไม่ดีขึ้น
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน ร่วมกับอาการผิดปกติทางหู เช่น หูอื้อ ได้ยินเสียงในหู หรือสูญเสียการได้ยิน
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน ร่วมกับอาการระบบทางประสาท จึงส่งผลให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ เช่น แขนขาชา แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถทรงตัวได้
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน ร่วมกับอาการผิดปกติทางการมองเห็น เช่น เห็นแสงจ้า ตาพร่ามัว
- มีอาการ ปวดหัว บ้านหมุน อย่างรุนแรง หลังจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือศีรษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง
วิธีการตรวจวินิจฉัยอาการเวียนศีรษะผิดปกติ
- ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจการได้ยิน, ตรวจระบบประสาทและการทรงตัว, ตรวจการทำงานของอวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน, ตรวจดูความผิดปกติของการกลอกลูกตา
- การทำ CT scan , MRI เพื่อตรวจคลื่นสมองระดับก้านสมอง, ตรวจหาความผิดปกติของหัวใจ, วัดแรงดันของน้ำในหูชั้นใน และตรวจแรงดันของน้ำในหูชั้นใน ด้วยเครื่อง ECOG
บ้านหมุน ปฐมพยาบาลอย่างไร
- หากเกิดอาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนในขณะยืนหรือเดินอยู่ ในหยุดเดินทันที และนั่งพักเพื่อป้องกันการล้มและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงท่าทางที่อาจจะเข้าไปกระตุ้นอาการบ้านหมุนหรือการปวดศีรษะแบบเฉียบพลัน เช่น การหันศีรษะเร็ว ๆ หรือก้ม เงยคอมากเป็นเวลานาน เป็นต้น
- หากเกิดอาการบ้านหมุนอย่างรุนแรง ให้นอนลงบนพื้นราบ หากหลับตาแล้วรู้สึกยังเวียนหัวอยู่ให้จ้องมองวัตถุนิ่ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง หรืออยู่กลางแจ้ง
- หากเกิดอาการบ้านหมุนขณะขับรถ ให้จอดรถไว้ข้างทางและเปิดไฟฉุกเฉินทันที นั่งพักเพื่อให้อาการดีขึ้น หรือถ้าหากมีอาการอื่นร่วมด้วย ให้รีบขอความช่วยเหลือทันที
- หากมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
บ้านหมุน เกี่ยวข้องกับไมโรคไมเกรน
โดยปกติแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรนจะมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือมีอาการปวดแบบตุ๊บ ๆ จี๊ด ๆ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเวียนหัว มึนหัว หรือบ้านหมุนร่วมด้วย รวมทั้งยังมีอาการหูอื้อ และแพ้แสงจ้า แต่อาการจะเป็นๆ หายๆ สลับกันไป ดังนั้น หากผู้ป่วยที่เป็นโรคไมเกรนแล้วมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย อาจเป็นผลกระทบมาจากโรคไมเกรน
วิธีป้องกันอาการ บ้านหมุน
- ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ท่าทางที่เหมาะสม และไม่หักโหมจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ เช่น การอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง, อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน, หรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากจนเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายสมอง ลดความเครียด
- เวลาเข้านอน ให้ศีรษะยกสูงขึ้นเล็กน้อย โดยใช้หมอนรองศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ และไม่ควรสูงจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการตึงปริเวณต้นคอได้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน, แอลกอฮอลล์
- เคลื่อนไหวท่าทางให้ช้าลงเล็กน้อย ไม่ควรหันศีรษะแบบรวดเร็วจนเกินไป
ข้อสรุป
อาการบ้านหมุน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและมีสาเหตุการเกิดได้หลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกิดจากโรคไมเกรน จะทำให้อาการปวดศีรษะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการไมเกรนจนมีอาการเวียนหัวแล้วบ้านหมุน หรือหากกังวล ก็สามารถทำ CT scan , MRI เพื่อเช็กระบบประสาทและสมองว่ามีสิ่งใดในสมองผิดปกติหรือไม่
หากต้องการเช็กระบบประสาทแบบละเอียด แนะนำที่ BTX Migraine Center สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทรเบอร์ 090–970-0447 เพื่อปรึกษา ขอคำแนะนำ หรือจองคิวฉีดโบท็อกไมเกรน เพื่อลดอาการไมเกรน เวียนหัวและปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ กับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางที่ปลอดภัยและทันสมัยได้ทันที