10 เครื่องดื่มแก้ปวดหัว พิชิตอาการปวดศีรษะจากไมเกรน

10 เครื่องดื่มพิชิตไมเกรน

อาการปวดหัวเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปวดหัวไมเกรน ปวดตุบ ๆ ปวดหัวจากความเครียดสะสมหรือเครียดจากการทำงาน ตลอดจนการเป็นประจำเดือนแล้วปวดหัว ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละรูปแบบก็มีอาการที่แตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้ วิธีบรรเทาอาการปวดหัวก็มีหลากหลาย โดยหนึ่งในวิธีง่าย ๆ คือ ดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว แต่เครื่องดื่มที่ว่าแก้ปวดหัวไมเกรนได้หรือไม่ จะมีเมนูอะไรบ้าง อ่านต่อได้เลย


สารบัญบทความ


เครื่องดื่มแก้ปวดหัว

หนึ่งในวิธีแก้ปวดหัวที่ดีและปลอดภัยอีกวิธีหนึ่งคือ การดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรน เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้ว เครื่องดื่มแก้ไมเกรนเหล่านี้จะเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติ กล่าวคือ มีส่วนผสมของสมุนไพรหรือผลไม้เป็นหลัก

อีกทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านขายเครื่องดื่มทั่วไป แต่หากใครที่อยากจะซื้อวัตถุดิบมาทำเครื่องดื่มก็ง่าย สะดวก อีกทั้งยังได้วิตามิน ตลอดจนประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่


เครื่องดื่มช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างไร

เครื่องดื่มช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างไร

อย่างที่ทราบกันดีว่าอาการของไมเกรนคือ ปวดหัวข้างเดียว ปวดตุบ ๆ คล้ายกับจังหวะเต้นของหัวใจ 

ปวดกระบอกตา ตลอดจนปวดรอบศีรษะ โดยเฉพาะในผู้ป่วยบางรายก็มีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และไวต่อสิ่งเร้าร่วมด้วย

เครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนเหล่านี้ เมื่อดื่มแล้ว สรรพคุณของสมุนไพรหรือผลไม้ต่าง ๆ ก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ช่วยทำให้ร่างกายชุ่มชื้น ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ลดอาการปวดหัว คลื่นไส้ เวียนหัว ตลอดจนอาการอาเจียนได้อย่างดี


10 เครื่องดื่มแก้ปวดหัว มีอะไรบ้าง

10 เครื่องดื่มแก้ปวดหัว มีอะไรบ้าง
เครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรน ที่เรานำมาฝากมีทั้งหมด 10 ชนิด ดังนี้

 1. ชาขิง

ชาขิง
ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการบำบัดและรักษาโรคต่าง ๆ ได้ดี ดังจะเห็นได้จากในงานวิจัยหลาย ๆ แห่ง ซึ่งนักวิจัยส่วนใหญ่พบว่าชาขิงสามารถลดอาการปวดหัวไมเกรนได้มากถึง 60% รวมถึงสามารถรักษาอาการที่เกิดร่วมได้ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว 

อีกทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี ลดระดับน้ำตาล ตลอดจนลดการอักเสบตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน และมีสารในการช่วยลดการอักเสบและการปวดหัว

โดยวิธีการทำชาขิงก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ฝานขิงบาง ๆ คั้นกับน้ำ แล้วนำมาต้ม หรือใครจะซื้อชาขิงสำเร็จรูปก็สะดวก และได้รับประโยชน์จากเครื่องดื่มแก้ปวดหัวชนิดนี้ได้ดีเช่นกัน

2. ชาเปปเปอร์มินต์

ชาเปปเปอร์มินต์
น้ำมันเปปเปอร์มินต์หรือที่รู้จักกันในชื่อสะระแหน่ ถูกนำมาใช้ในยาแก้ปวดหัวบ่อยครั้ง เนื่องจากมีสรรพคุณในการลดอาการปวดหัว 

เช่นเดียวกับชาเปปเปอร์มินต์ เครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนที่มีสารและสรรพคุณในการช่วยรักษาไมเกรน ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทั้งกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะและลำไส้ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

3. ชาฟีเวอร์ฟิว

ชาฟีเวอร์ฟิว
ดอกฟีเวอร์ฟิวเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้รักษาอาการต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงยุคศตวรรษที่ 17 เนื่องจากมีสรรพคุณโดดเด่นในการรักษาอาการปวดหัวเรื้อรัง อาการไมเกรน และลดความถี่ของอาการปวดหัว คลื่นไส้ เวียนหัว ไวต่อสิ่งเร้า

ทั้งนี้เป็นเพราะว่าฟีเวอร์ฟิวจะทำหน้าที่ต้านโพรสตาแกลนดินและเซโรโทนินที่เป็นสาเหตุของการทำให้ปวดหัว อย่างไรก็ดีชาฟีเวอร์ฟิวอาจจะมีรสขมนิดหน่อย อาจจะเติมความหวานด้วยน้ำผึ้ง หญ้าหวาน หรือสารให้ความหวานแทนก็เพิ่มความอร่อยและสดชื่นต่อร่างกายได้

4. ชาเขียว

ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากชาเขียวนั้นดื่มง่าย หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป รวมถึงมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สาเหตุที่ชาเขียวสามารถแก้ปวดหัวคลัสเตอร์หรือไมเกรนได้นั้น เป็นเพราะว่ามีสารคาเฟอีนและธิโอฟิลลีน ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ระบายความร้อนภายในร่างกาย ศีรษะ และกระบอกตา ส่งผลให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อาการปวดหัวทุเลาลง 

5. นมอัลมอนด์

นมอัลมอนด์
การทานแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียม สามารถทำให้อาการไมเกรนลดลงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนอย่างนมอัลมอนด์นั้นอุดมไปด้วยแมกนีเซียม อีกทั้งยังสามารถต้านสารในสมองซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวด ดังนั้นจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดีอย่างดีเยี่ยม

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : แมกนีเซียมแก้ไมเกรนได้จริงไหม? อาหารที่มีแมกนีเซียมสูงมีอะไรบ้าง? 

6. น้ำมะนาวอุ่น

น้ำมะนาวอุ่น
อย่างที่ทราบกันดีว่ามะนาวเป็นพืชสมุนไพรของไทยที่มีสรรพคุณหลากหลาย มีรสเปรี้ยว ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด คลื่นไส้ วิงเวียน ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดี ตลอดจนช่วยบรรเทาอาการปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินน้ำมะนาวอุ่น ๆ ก็จะช่วยเสริมและทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดียิ่งขึ้น

7. นมไขมันต่ำ

นมไขมันต่ำ
หนึ่งในวิตามินที่ร่างกายควรได้รับและมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันโรคไมเกรนคือ วิตามินบี 2 เนื่องจากมีส่วนช่วยในการลดความถี่ของอาการปวดหัวกำเริบ ซึ่งเครื่องดื่มแก้ไมเกรนที่มีวิตามินบี 2 สูง ได้แก่ นมไขมันต่ำ ทั้งนี้ นมไขมันต่ำ 1 แก้วมีบริเวณวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่แนะนำพอดี 

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ วิตามินแก้ปวดไมเกรน มีอะไรบ้าง? ปวดหัวบ่อย ขาดวิตามินอะไร? 

8. น้ำองุ่น

น้ำองุ่น
องุ่น อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินมากมาย ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านสารอนุมูลอิสระ การลดระดับไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรค ตลอดจนลดอาการอักเสบและทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น 

ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนอย่างน้ำองุ่นในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารแล้ว ยังช่วยลดอาการปวดหัวที่เกิดจากอาการสับเสบได้เป็นอย่างดี 

9. น้ำส้ม

น้ำส้ม
หนึ่งในเครื่องดื่มแก้ไมเกรนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ น้ำส้ม เนื่องจากน้ำส้มมีวิตามินสูงและมีแร่ธาตุที่สำคัญอย่างแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดหัวข้างซ้าย ข้างขวา หรืออาการปวดหัวทั้งสองข้าง นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

10. น้ำเปล่า

น้ำเปล่า
สิ่งที่หลายคนมองข้าม เครื่องดื่มแก้ปวดหัวที่เห็นผลได้ดี ปลอดภัย 100% คือ การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับอย่างเพียงพอ เนื่องจากน้ำเปล่าจะทำให้ร่างกายชุ่มชื่น ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างปกติ นอกจากนี้ยังเพิ่มสมาธิ ลดความกังวลและความหงุดหงิดในระหว่างวันด้วย


คำแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัว

แม้ว่าเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนเหล่านี้จะมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย แต่หากดื่มมากเกินไปก็อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนเกิดผลเสียต่าง ๆ ต่อร่างกายตามมาได้แทน

นอกจากนี้หากพบว่าตนเองเคยมีประวัติภูมิแพ้ต่าง ๆ ผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ตลอดจนผู้ที่แพ้พืช ผัก หรือผลไม้ที่เป็นวัตถุดิบในน้ำหวานแก้ปวดหัวก็ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากจะส่งผลให้อาการแพ้กำเริบ ตลอดจนปวดหัวท้ายทอยและรอบ ๆ ศีรษะได้


เครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงเมื่อมีอาการปวดหัว

เครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงเมื่อมีอาการปวดหัว
แม้ว่าจะดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรรักษาไมเกรนเป็นประจำ แต่หากยังดื่มเครื่องดื่มดังต่อไปนี้ ก็อาจจะส่งผลให้อาการปวดรอบหัวและไมเกรนขึ้นตากำเริบได้ดังเดิม 

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ หรือไวน์แดงก็มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท ทำให้อาการปวดหัวกำเริบได้ เนื่องจากสารไทรามีนจะเข้าไปลดระดับสารเซโรโทนินในสมอง อีกทั้งไวน์แดงยังอุดมไปด้วยสารไทรามีนและฮีสตามีนที่เป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดหัว

  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ไม่ว่าจะเป็นชาที่ผ่านการแปรรูปหรือกาแฟ ก็มีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนขึ้น ในขณะเดียวกันหากหยุดดื่มชาหรือกาแฟในทันทีก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้ ดังนั้นจึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และเน้นดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนแทน


แนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัว

แนวทางอื่นในการรักษาอาการปวดหัว

การดื่มเครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนเป็นเพียงหนึ่งทางเลือกในการบรรเทาอาการปวดหัวรูปแบบต่าง ๆ แต่หากพบว่าตนเองมีอาการรุนแรงหรือไม่สะดวกในการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ ก็สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้ได้

1. การใช้ยาบรรเทาอาการปวดหัว

ยาแก้ปวดหัวมีหลายประเภท เริ่มตั้งแต่ยาแก้ปวดสามัญประจำบ้าน ตลอดจนยาไมเกรนโดยเฉพาะ ซึ่งก็สามารถเลือกทานได้ตามอาการและดุลยพินิจของแพทย์และคำแนะนำของเภสัชกร ยกตัวอย่างเช่น 

  • ยากลุ่ม Triptan ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวคิ้วและปวดรูปแบบต่าง  ๆ 
  • ยากลุ่ม Ergotamine ทำให้เส้นเลือดมีการหดตัวลดลงตามปกติ 
  • ยากลุ่ม Ibuprofen ที่ใช้ในการรักษาอาการปวดในรูปแบบต่าง  ๆ เช่น ปวดฟัน เส้นคอตึงปวดหัว เป็นต้น

2. การประคบเย็น

หนึ่งในวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้นที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ผ้าเย็น ผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาด หรือผ้าห่อน้ำแข็งนำมาประคบบริเวณที่ปวดเพียง 5-15 นาที อาการปวดก็จะทุเลาลง เนื่องจากเส้นเลือดและกล้ามเนื้อโดยรอบมีการคลายตัว ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีตามปกติ

3. การนวดผ่อนคลายอาการปวดศีรษะ

วิธีนวดแก้ปวดไมเกรน เพียงแค่นวดกดจุดบริเวณที่ปวดหรือบริเวณบ่า ไหล่ ท้ายทอย คอ กล้ามเนื้อที่ตึงก็จะค่อย ๆ คลาย วิธีนี้นอกจากจะลดอาการปวดหัวไมเกรนได้แล้ว ยังเป็นการบรรเทาอาการเมื่อยล้าจากออฟฟิศซินโดรม ทั้งนี้หากใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่าง ๆ ในการนวดก็จะช่วยให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น

4. ฝังเข็มรักษาอาการปวดหัว

การฝังเข็มเป็นแพทย์แผนจีนที่มีมาตั้งแต่ในอดีต และยังคงได้รับความนิยในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฝังเข็มไมเกรน ซึ่งทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เข็มขนาดเล็กและบางฝังลงบริเวณจุดต่าง ๆ เพื่อเปิดทวารสมองและทะลวงเส้นลมปราณ เพียงเท่านี้ระบบต่าง ๆ ก็จะทำงานได้ดี ร่างกายผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดหัวได้

5. ฉีดโบท็อกแก้ปวดศีรษะ

การฉีดโบท็อกแก้ปวดศีรษะกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้น ๆ แต่ในณะเดียวกันผลลัพธ์กลับคงอยู่นานถึง 4-6 เดือนทีเดียว

ทั้งนี้ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดโบท็อกไมเกรน (Botulinum Toxin) ชนิด A ตามจุดต่าง ๆ เพื่อคล้ายกล้ามเนื้อและยับยั้งความถี่ของอาการปวดหัว


วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหัว
อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งสร้างความน่ารำคาญใจและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันก็สามารถใช้วิธีป้องกันง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  1. เลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน เช่น ไวน์แดง เนยแข็ง เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ และแต่เน้นทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพแทน
  2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงจ้า เสียงดัง หรือมีปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน
  3. พักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา อย่างน้อยเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่
  4. ออกกำลังกาย เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เช่น จ็อกกิ้ง โยคะแก้ปวดหัว กระโดดเชือก เป็นต้น
  5. ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อลดไขมันที่จะเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด 
  6. ลดความเครียด อาจจะเริ่มจากการทำกิจกรรมที่ชอบ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการตึงกล้ามเนื้อและปวดหัวโดยรอบได้แล้ว

ข้อสรุป

 เครื่องดื่มแก้ปวดหัวไมเกรนมีหลากหลายเมนู สามารถเลือกดื่มได้ตามชอบ แต่หากมีโรคประจำตัว ตั้งครรภ์ หรือมีประวัติก็ควรระมัดระวังและไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้แทนได้ 

ทั้งนี้ หากใครที่ต้องการรักษาด้วยแนวทางอื่น ๆ เช่น การฉีดโบท็อกไมเกรนที่มีความปลอดภัยสูงก็สามารถแอดไลน์ @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 เพื่อเข้ารับคำปรึกษา ประเมินและตรวจไมเกรน ตลอดจนนัดวันรักษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์จาก BTX Migraine Center หรือศูนย์รักษาไมเกรนเฉพาะทางได้

แอดไลน์


เอกสารอ้างอิง

Kristeen Cherney. (2021). Sip Your Way to Migraine Relief with These 12 Drinks. Retrieve from https://www.healthline.com/health/migraine/drinks-for-headaches-and-migraine